การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษามลายูโดยใช้ชุดกิจกรรมอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์ (Phonics Blends) สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านเจาะเกาะ จังหวัดนราธิวาส

ผู้แต่ง

  • การ์ตีนี วาโด คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
  • พารีดา หะยีเตะ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
  • นูรุสนีดา ปูเตะ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

คำสำคัญ:

ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน, ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์

บทคัดย่อ

        งานวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษามลายูก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนฝึกทักษะการอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์ (Phonics Blens) และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์  ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านเจาะเกาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนของรัฐที่ใช้หลักสูตรอิสลามศึกษา (แบบเข้ม) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไทย จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนการสอนในการพัฒนาการอ่านออกเสียงคำภาษามลายูรูปแบบโฟนิกส์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 แผน รวม 8 คาบ    2) ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนฝึกอ่านออกเสียงคำภาษามลายูที่ใช้ในแต่ละแผน 3) แบบฝึกชุดคำศัพท์เกี่ยวกับกระบวนการอ่านออกเสียงคำภาษามลายู 4) ใบบันทึกคะแนนและแบบทดสอบวัดความรู้ก่อนเรียน (Pre -Test) และหลังเรียน (Post- Test) 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนฝึกอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์เป็นแบบประเมินระดับ Rating scale จำนวน 10 ข้อ ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษามลายูโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนฝึกอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์ (Phonics Blends) การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 6.03 คะแนน และ 18.83 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าคะแนนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนการสอนฝึกทักษะการอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์ (Phonics Blends) อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 มีค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58

 

 

เอกสารอ้างอิง

กันต์ดนัย วรจิตติพล. (2542). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตสถาบันราชภัฏนครปฐม จังหวัดนครปฐม. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณทิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ บัณทิตวิทยาลัย). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

กุณฑิกา พัชรชานนท์ และบัลลังก์ โรหิตเสถียร. (2561). ปลอด นร. อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566, จากhttp://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.phd?NewsID=40010&Key=news_act 2558.

จารุวรรณ สายสิงห์. (2546). การผสมสานการเรียนการสอนแบบโฟนิกส์และการสอนแบบโดยรวมเพื่อส่งเสริม ความสามารถในการอ่านออกเสียง ความเข้าใจในการอ่านการเขียนสะกดคำและความคิดเห็นต่อการอ่าน ภาษามลายูของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต วิชาการสอนภาษาอังกฤษ). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

จีรนันท์ เมฆวงษ์. (2547). การพัฒนาความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษและความคงทนในการเรียนรู้คำศัพท์ด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิกส์. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิตวิชาการสอนภาษาอังกฤษ). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ชัยยง พรหมวงค์. (2551). นวัตกรรมการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ธรรกมลการพิมพ์.

ดวงรัตน์ แซ่จง. (2561). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงโฟนิกส์ (Phonics) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 3 โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566, จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/Patanasilpa/article/view/261384/175857

ดวงใจ ตั้งสง่า. (2557). ชวนลูกเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตอน โฟนิคส์คืออะไร ทำไมต้องเรียน. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566, จาก http://teamkru.com/th/โฟนิคส์คืออะไร ทำไมต้องเรียน/, 2555-2556.

ปรียา โนแก้ว และประนุท สุขศรี. (2548). รายงานการวิจัย เรื่อง ข้อมูลพื้นฐานการจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศในภาคเหนือ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

Wilkins, D. A. (1972). Linguistic in Language Teaching. Cambridge: MIT Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-12-13

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย