การพัฒนารูปแบบการบริหารสถาบันฝึกอบรม นิติวิทยาศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพ ปัญหา อุปสรรคของการบริหารสถาบันฝึกอบรมและวิจัยการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สฝจ.สพฐ.ตร.) 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถาบันฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์ที่พึงประสงค์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้านการสอนหรือเป็นนักวิชาการด้านการบริหารการศึกษา 2) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารสถาบันฝึกอบรมและวิจัยการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ 3) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติวิทยาศาสตร์ และ 4) ผู้ใช้บริการงานนิติวิทยาศาสตร์โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสนทนากลุ่มหรือ Focus Group นำมาสร้างเป็นรูปแบบ แล้วนำรูปแบบที่ได้ไปสัมภาษณ์เชิงลึก แนวทางคำถามสำหรับการสนทนากลุ่ม ได้มาจากการศึกษาทฤษฎี แนวคิด และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กรอบแนวความคิดศึกษาจากทฤษฎีบริหาร POSCORB (Gulick
และ Urwick) แนวคิดบริหารจัดการ (Bartol & Martin) และแนวคิดที่เป็นหลักสากล (Henri Fayol) ซึ่งได้เลือกตัวแปรต้นที่ได้จากสภาพปัญหาจากการศึกษาเอกสาร 5 ประการ คือ การวางแผน การจัดองค์การ การอำนวยการการควบคุม และการรายงาน
ผลการวิจัยพบว่า สภาพ ปัญหา อุปสรรค ของการบริหารสถาบันฝึกอบรมและวิจัยการพิสูจน์หลักฐานตำรวจคือ บุคลากรไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารการศึกษา จึงทำให้ขาดการวางนโยบาย หรือยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนขาดแคลนงบประมาณ มีกฎระเบียบทางราชการที่เข้มงวดมากเกินไปทำให้ไม่สามารถบริหารงบประมาณแบบยืดหยุ่นได้ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถได้รับความรู้จากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถระดับสูงได้ ไม่มีอาคาร สถานที่ฝึกอบรมการบริหารจัดการต้องดำเนินการภายใต้ความขาดแคลน รูปแบบการบริหารสถาบันฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์ที่จะเกิดประสิทธิผลสูงสุด คือ ต้องสามารถผลิตบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และสามารถอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยสถาบันฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์ต้องเป็นรูปแบบองค์การมหาชนเพื่อให้มีความเป็นอิสระและสามารถให้บริการกับประชาชนในกรณีที่ต้องการฟ้องร้องหรือให้มีการตรวจพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวกับคดี เช่น การตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์พ่อ แม่ ลูก การตรวจพิสูจน์เพื่อฟ้องร้องมรดกการตรวจอุบัติเหตุรถยนต์ในที่ส่วนบุคคล ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นกรณีที่ประชาชนสามารถเข้าร้องขอรับการบริการจากสถาบันฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์ได้ด้วยตนเอง เพื่อนำไปใช้ในชั้นศาล สถาบันฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์จะต้องสังกัดภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยแปรรูปสถาบันฝึกอบรมและวิจัยการพิสูจน์หลักฐานตำรวจเป็นองค์การมหาชน โดยมีคณะกรรมการบริหารสถาบันฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีอิสระในการบริหารงบประมาณที่ได้จากรัฐและสามารถหารายได้จากการเก็บค่าให้บริการงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้กับบุคคลหรือหน่วยงานทั่วไป ตาม พรบ.องค์การมหาชน พ.ศ. 2542
Abstract
This is a qualitative research with objectives that focused on two areas; 1) the study of problems and obstacles in management of forensic police training and research institute (Institute of Training and Research of Scientific Crime Detection) and 2) developing management methodologies
for a desirable forensic training and research institute. The population that were specifically selected for this study included; 1) experts who are instructors or educational administration academicians, 2) police officers who are qualified as managers of the Institute of Training and
Research of Scientific Crime Detection, 3) forensic experts, and 4) the users of forensic services. The tool used in this research were the collection of data from Focus Group discussions which
were then created into a form and later used for in-depth interviews. The questions for Focus Group derived from the study of theory, concepts and related researches. The concept of the questions derived from the study of management of the POSCORB (Gulick and Urwick) concept, management concepts (Bartol & Martin), and the universal concept (Henri Fayol). All this was obtained from the basic variable from looking into problems from studying documents, whose main reasons were to focus on planning, organization, direction, control, and reporting.
As a result of the research, it was found that the problems and obstacles in the management of the Institute of Training and Research of Scientific Crime Detection is that the
police personnel do not have the knowledge and understanding in education management. This leads to lack of clear policy and strategy, including the lack of sufficient budget. Strict rules and regulations from the government causes inflexible budget management which in turn is an
obstacle for receiving the best knowledge from top instructors. There is insufficient building space or a place to conduct training. Administration and management are conducted with insufficiency. The most effective management of Forensic Science Institute should include the ability to produce
efficient staff, provide services which are easily accessible by the people, and provide them with true justice. Forensic Training Institute will be most effective if it is a public organization so that it is independent and able to serve the public without going through the official levels, for
example, in the event of litigation or for forensic examinations that is not case related, such as the paternity tests, will examination, car accident examination in private property, etc. These are examples of cases where the public can access the services from the Forensic Science Training be under the Royal Thai Police. It should be restructured within the Royal Thai Police and changed into a public organization under the management of The Executive Board of Forensic Training
Institute who can manage their own budgets and can earn some profits according to the ACT of Public Organization 2542 (1999).
Article Details
“ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่า บทความที่เสนอมานี้ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่ได้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารหรือแหล่งเผยแพร่อื่นใด ข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วมยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาต้นฉบับ ทั้งยินยอมให้กองบรรณาธิการมีสิทธิ์พิจารณาและตรวจแก้ต้นฉบับได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมนี้ขอมอบลิขสิทธิ์บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ให้แก่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์หากมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพ กราฟ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งและ/หรือข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วมยินยอมรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว”
References
กรกฏ สิงหโกวินท์. (2533).การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร. กรุงเทพฯ: ภาควิชาบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ชาญชัย แสวงศักดิ์. (2549). หน่วยงานของรัฐที่มิใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ: องค์การมหาชนและหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ.กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์นิติธรรม.
ธงชัย สันติวงษ์. (2540). องค์การและการจัดการ : ทันสมัยยุคโลกาภิวัตน์. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
ธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์. (2542). การบริหารงานองค์การมหาชน องค์การมหาชนมิติใหม่ของหน่วยงานภาครัฐ.กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2543).วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
โภคิน พลกุล. (2530). นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชนฝรั่งเศส. วารสารกฎหมายปกครอง.6 (สิงหาคม): 30.
วันเพ็ญ ทรัพย์ส่งเสริม. (2539). การจัดระบบองค์การมหาชนอิสระในกระบวนการการจัดทําบริการสาธารณะประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วิษณุ วรัญญู. (2538). องค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ.กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
ศิริพร พงศ์ศรีโรจน์. (2540). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพมหานคร: สำนักวิชาการ, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
สัมฤทธิ์ ยศสมศักดิ์. (2549). รัฐประศาสนศาสตร์ แนวคิดและทฤษฎี. กรุงเทพมหานคร: ธรรมกมลการพิมพ์.
สุรพล นิติไกรพจน์. (2542). องค์การมหาชน : แนวคิด รูปแบบ และวิธีการบริหารงาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการสำนักงานข้าราชการพลเรือน.
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ. (2542). นโยบายของรัฐบาลในการจัดตั้งองค์การมหาชน องค์การมหาชนมิติใหม่ของหน่วยงานภาครัฐ.กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ.
อุทุมพร จามรมาน. (2541). โมเดลคืออะไร. วารสารวิชาการ, 1(2), 22-26.
Alexandrou, A., & Davies, J. D. (2005). Improving police probationer training through a democratic research process. Research in Post-Compulsory Education, 10(2), 245-256.
Aydin, A. H. (2001). The concept of in-service training and reflections to the police organization. Paper presented at the Symposium of Police Education and Training in the 21st Century. Ankara, Turkey.
Bardo, J. W., & Hartman, J.J. (1982). Urban society: A systematic introduction. New York: Peacock.
Baldwin, J. (1993). Police interview techniques. British Journal of Criminology, 33, 325-352.
Charman, S., Savage, S. P., & Cope, S. (1999). Getting to the top: selection and training for senior managers in the police service. Social Policy & Administration, 33(3), 281-301.
Clements, P., & Zengin, C. (2007). Improving police performance: the value of thematic inspection of police training. Paper presented at the Conference on Democracy and Global Security. Istanbul: Turkey.
Ford, J. K., Kozlowski, S. W. J., Kraiger, K., Salas, E., & Teachout, M. S. (Eds.). (1997). Improving training effectiveness in work organizations. Mahwah, NJ: LEA.
Gurcan, B. (2005). The in-service training activities of the police service and regional training centres. London: Police Foundation.
Jones, P. R. L. (1999). On a course: reducing the impact of police training on availability for ordinary duty. London: Home Office.
Kose, H. M. (2006). Delivery of in-service training activities in the police forces and evaluation of trainee perceptions. Berkshire: Open University Press.
National Crime Faculty. (1998). A practical guide to investigative interviewing. Bramshill, National Police Training College.
Noga Lisa L. (2007). Student achievement and perceptions: The effects of a forensic science curriculum. Walden University, ProQuest, UMI Dissertations Publishing.
Richter, A. W., Dawson, J. F., & West, M.A. (2011). The effectiveness of organizational teams: A meta-analysis. International Journal of Human Resource Management. 22(5): 2749-2769.
Sheehan, M. (2012). Global human resource management and economic change: a multiple level of analysis research agenda. International Journal of Human Resource Management, 23 (12): 2383-2403.
Scullion, H. & Farndale, E. (2011) Global Talent Management: New Roles for the Corporate HR Function. In H.Scullion & D.Collings, (eds.) Global Talent Management. London: Routledge.
Shelton Donald E. (2010). Criminal adjudication: The challenges of forensic science evidence in the early 21st century. University of Nevada, Reno, ProQuest, UMI Dissertations Publishing.
Wallace Nicole. (2010). Forensic science applications utilizing nanomanipulation-coupledto nanospray ionization-mass spectrometry for the analysis of ultra-trace illicit drugs.University of North Texas, Pro Quest, UMI Dissertations Publishing.
Wright, R., & Powell, M. B. (2006). Investigative interviewers’ perceptions of their difficulty in adhering to open-ended questions with child witnesses. International Journal of Police Science and Management, 8, 316-325.
West, M.A. (2012). Effective teamwork: practical lessons from organizational research. 3rd Edition. Chichester: The British Psychological Society/Blackwell.
Yeung Hang Ieng. (2008). Advancing forensic DNA profiling through microchip technology. University of California, nBerkeley, Pro Quest, UMI Dissertations Publishing.
Zengin, C. (2010b). The effectiveness of in-service training function in the Turkish National Police: a baseline assessment. Unpublished PhD thesis, University of Portsmouth, UK.