การศึกษากรอบความคิดของนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษเพื่อจัดทำคู่มือพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโต
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของงานวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาระดับกรอบความคิดแบบเติบโตของนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ 2) จัดทำคู่มือพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วยนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2/2565 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน จำนวน 314 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดศึกษากรอบความคิด จำนวน 30 ข้อ โดยมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.72 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1.การศึกษาระดับกรอบความคิดแบบเติบโต นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ศรีสะเกษมี 5 องค์ประกอบ คือ 1) มุมมองต่อความเชื่อเกี่ยวกับสติปัญญาของตนเอง 2) มุมมองต่อปัญหาและอุปสรรค 3) มุมมองต่อผลสะท้อนหรือคําวิพากษ์วิจารณ์ 4) การตอบสนองต่อความล้มเหลวและ 5) เป้าหมายในการเรียนรู้ พบว่า กรอบความคิดในด้านเป้าหมายในการเรียนรู้ มีในระดับมาก รองลงมาคือกรอบความคิดในด้านมุมมองต่อความเชื่อเกี่ยวกับสติปัญญาของตนเอง มีคะแนนเฉลี่ย 3.90 อยู่ในระดับมาก กรอบความคิดในด้านมุมมองต่อผลสะท้อนหรือคําวิพากษ์วิจารณ์ มีคะแนนเฉลี่ย 3.84 อยู่ในระดับมาก กรอบความคิดในด้านการตอบสนองต่อความล้มเหลวมีคะแนนเฉลี่ย 3.83 อยู่ในระดับมากและกรอบความคิดในด้านมุมมองต่อปัญหาและอุปสรรคมีคะแนนเฉลี่ย 3.61 อยู่ในระดับมาก และมีคะแนนกรอบความคิดโดยรวมเฉลี่ย 3.82 อยู่ในระดับมาก
2.การสร้างคู่มือพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโต ซึ่งผ่านการประเมินและตรวจสอบเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ผลการประเมินพบว่าความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของคู่มือพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโต นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษอยู่ในระดับมากที่สุดมีคะแนนเฉลี่ย 4.67 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยระดับสูงสุด คือ ด้านความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติ มีคะแนนเฉลี่ย 4.76 รองลงมา คือ ด้านความเหมาะสมด้านการใช้ภาษาและการสื่อสารมีคะแนนเฉลี่ย 4.67 ความเหมาะสมด้านเนื้อหามีคะแนนเฉลี่ย 4.60 และความเหมาะสมด้านการใช้ประโยชน์มีคะแนนเฉลี่ย 4.60 ตามลำดับ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความเพื่อการศึกษา แต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มาให้ครบถ้วนสมบูรณ์
References
ฉวีวรรณ อุปมานะ. (2562). พัฒนาคู่มือการดุแลสุขภาพด้วยตัวเองของผู้สูงอายุ : กรณีศึกษา ผู้สูงอายุ
ในชุมชนหนอง อีเลี่ยน ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี. การประชุมวิชาการและนําเสนอ
ผลงานวิจัยระดับชาติราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 2 “การวิจัย 4.0 เพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความ
มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” (น. 1043-1054). มหาวิทยาลัยราชธานี.
ศูนย์จิตวิทยาการศึกษามูลนิธิยุวสถิรคุณ. (2565, 27 ตุลาคม). การพัฒนากรอบแนวคิด. http://www.
cepthailand.org
สมบัติ ท้ายเรือคำ. (2555). สถิติขั้นสูงสำหรับการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพครั้งที่ 2). สำนักพิมพ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564). สำนักนายกรัฐมนตรี.
Bellini, R. (2017). Fostering a growth mindset: A cognitive behavioral group for ninth
graders. Master project, The Faculty of the Kalmanovitz School of Education. Saint
Mary College of California.
Burnette, J.L., Russell, M.V., Hoyt, C.L., Orvidas, K. & Widman, L. (2018). An online
growth mindset intervention in a sample of rural adolescent girls. British Journal
of Educational Psychology, 88(3). 428-445.
Dweck, C. S. (2017). Mindset. Constable & Robinson Ltd.
Education Week Research Center. (2016). Mindset in the classroom: A national study of
K-12 teachers. Editorial Projects in Education.
Hanson, J. (2017). Determination and validation of the Project for Educational Research
That Scales (PERTs) survey factor structure. Journal of Educational Issues, 3(1). 64-
Hochanadel, A., & Finamore, D. (2015). Fixed and growth mindset in education and how
grit helps students persist in the face of adversity. Journal of International
Education Research, 11(1). 47-50.
Keene, E. (2018). Engaging Children: Igniting a Drive for Deeper Learning K –8.Heinemann.
Smith, T. F., & Capuzzi, G. (2019). Using a Mindset Intervention to Reduce Anxiety in the
Statistics Classroom. Psychology Learning & Teaching, 18(3), 326-336.
Truax, M. (2018). The Impact of Teacher Language and Growth Mindset Feedback on
Writing Motivation. Literacy Research & Instruction, 57(2). 135-157.
Weber, J. (2018). Growth Mindset Interventions: Lessons from Across Domains. University
of Groningen.
World Health Organization. (2011). Life skill Education in schools. World Health
Organisation.