รูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านเปือยนาสูง เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานความต้องการการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านเปือยนาสูงเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด 2) พัฒนารูปแบบการนิเทศภายใน 3) ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายใน และ 4) ศึกษาผลกระทบการใช้รูปแบบการนิเทศภายใน กลุ่มเป้าหมาย คือบุคลากรครูปีการศึกษา 2566 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบประเมิน แบบบันทึก การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ค่า Wilcoxon Signed Ranks Test และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า 1) ข้อมูลพื้นฐานและสภาพความต้องการ ได้แก่ กฎหมาย นโยบายและแนวคิด ทฤษฎีทางการศึกษา ที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด ปัญหาที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ครูยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่ได้รับการพัฒนาให้จัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดอย่างจริงจัง 2) รูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียนบ้าน เปือยนาสูงเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด มีชื่อว่า IDEA Model ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก 4 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 Information : I การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ขั้นที่ 2 Development : D การพัฒนา ขั้นที่ 3 Evaluation : E ประเมินผลการพัฒนา ขั้นที่ 4 After Action Reflect : A การสะท้อนกลับ 3) ผลการทดลองใช้ ปรากฏว่าครูมีสมรรถนะการจัด การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 4) ผลกระทบการใช้รูปแบบ ได้แก่ ผู้ทำหน้าที่นิเทศและผู้รับการนิเทศมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านเปือยนาสูงเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนปีการศึกษา 2566 มีคะแนนเฉลี่ยมากกว่าปีการศึกษา 2565 ทั้งนี้เนื่องจากทุกองค์ประกอบของรูปแบบมีความเหมาะสม และสอดคล้องซึ่งกันและกัน เป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กันแต่ละขั้นตอน ครูผู้ให้การนิเทศและครูผู้รับการนิเทศเข้าใจถึงบทบาท ของตนเอง มีความมุ่งมั่นจริงใจในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาแนะนำ ผู้บริหารให้การสนับสนุน
คำสำคัญ : การจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิด การนิเทศภายใน สมรรถนะการจัดการเรียนรู้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความเพื่อการศึกษา แต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มาให้ครบถ้วนสมบูรณ์
เอกสารอ้างอิง
บรรณานุกรม
ขวัญจิรา จำปา. (2567). (58). รูปแบบการบริหารการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครูสู่เป้าหมาย
ผลลัพธ์คุณภาพผู้เรียนโรงเรียนวัดพระเกิดคงคาราม. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษา
แห่งประเทศไทย (สพบท.), 6(4), 58-59.
ชาญชัย อาจินสมาจาร. (2555). การบริหารการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาองค์การ. ชานเมืองการพิมพ์.
นิอร พันธ์อ่อน. (2563). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบให้คำชี้แนะ (Coaching) เพื่อ
เสริมสร้างสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนบ้านคำก้อม สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
อุบลราชธานี เขต 3. อุบลราชธานี : โรงเรียนบ้านคำก้อม, 155-158.
มณีรัตน์ เย็นสวัสดิ์. (2564). การพัฒนารูปแบบการนิเทศด้วยชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้
เชิงรุก (Active Learning) ของครูระดับประถมศึกษาโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น. วารสารชุมชนแห่ง
การเรียนรู้วิชาชีพครู, 1(4), 169-193.
ลักษณา จันธิมา. (2566). การพัฒนารูปแบบการนิเทศตามแนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพผ่านการพัฒนาบทเรียน
ร่วมกันเพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนอนุบาลจุน (บ้านบัวสถาน) สำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยาเขต 2. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(5), 458-475.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2556). ศาสตร์การนิเทศการสอนและการโค้ช การพัฒนาวิชาชีพ : ทฤษฎี กลยุทธ์สู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 12,
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วิชา พรหมโชติ, ญาณิศา บุญจิตร์ และ โสภณ เพ็ชรพวง. (2564). การพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน
สังกัดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี. วารสารรัชต์ภาคย์, 15(41), 326–341.
วิศนี ใจฉกาจ และ จุไรรัตน์ สุดรุ่ง. (2562). กลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการสอนคิดวิเคราะห์โรงเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8. วารสารครุศาสตร์, 47(1), 340.
สงัด อุทรานันท์. (2548). การนิเทศการศึกษา หลักการ ทฤษฎีและปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 4, มิตรสยาม.
สถาพร สมอุทัย. (2565). การนิเทศการศึกษาในการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารวิจัยวิชาการ;
(3), 286.
สายสวลี วิทยาภัค. (2565). การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
ภาษาไทยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยา
เชิงพุทธ 7(9), 299-313.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย. สำนักการพิมพ์สำนักงานเลขาธิการสภา
ผู้แทนราษฎร.
สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐาน
การศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ. โรงพิมพ์
ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
อนงค์นาถ เคนโพธิ์. (2563). การพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะ
การแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์สำหรับครูปฐมวัย. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 13,
อุทัย พินิจทะ และคณะ. (2567). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
ด้วยรูปแบบ AKL STAR Model ของโรงเรียนอนุบาลคลองลาน. กำแพงเพชร : โรงเรียนอนุบาลคลองลาน, 37.
Collins Essential Thesaurus. (2003). Collins essential thesaurus. Retrieved October 9, 2020, from
http://www.thefreedirectionary.com/indicator, 1-70.
Dewey, J. (1963). Experience and Education. New York: Macmillan Publishing Company, 25-50.
Glickman, Carl D., Stephen P. Gordon, and Jovita M. Ross-Gordon. (2004). Supervision and Instructional
Leadership : A Developmental Approach. 6th ed. Boston : Allyn and Bacon, 61, 321-422.
Harris, B.M. (1985). Supervisory Behavior in Education. 2d ed. Englewood Cliff, New Jersy : Prentice-Hall,
-15.
Hattie, J. (2012). Visible Learning for Teachers: Maximizing Impact on Learning. Routledge.
Kutsyuruba, B. (2003). Instructional Supervision: Perceptions of Canadian and Ukrainian Beginning
High-School Teachers, 2.
OECD. (2018). PISA 2015 results in focus. https://www.oecd.org/pisa/pisa-2015-results- infocus.pdf
Oliva, Peter F. (1989). Supervision for today’s school. 3rd ed. New York : Longman, 8.
Palgrave Macmillan. (2014). Palgrave study skills. Retrieved from http://www.
palgrave.com/skills4study/study skills/thinking/critical.asp, 23.
Scott, B. P. (1998). Evaluation the Impact of Training Alexandria. American Society for Training and
Development.
Spears, R. R. and others. (1967). Patterns of Child Rearing. Evanston, Ulinois : Row Peterson, 16-71.
Stumpf,S.E. (1994). Philosophy: History and Problems. New York: McGraw-Hill, 325-340, 486.