Tourism Route Development in Kamphaeng Phet for Elderly Tourist
Main Article Content
Abstract
This research was a mixed method study. It focuses on tourism in Kamphaeng Phet for elderly tourists. The study’s purposes were to 1) survey the potential of tourist attractions, 2) investigate the behaviors of elderly tourists, 3) study tourism routes, and 4) assess the tourism routes. The participants and data collection methods were distributing tourist attraction questionnaires to 400 elderly people, conducting focus group interviews with 13 tourism party representatives, and investigating 30 elderly tourists’ satisfaction from questionnaires. The statistics were frequency, percentage, mean, and standard deviations. The research found that there were 15 tourist attractions in Kamphaeng Phet. Based on the four potential criteria, 11 tourist attractions were accepted with 73.33%. The top five tourist sites were Khlong Wang Chao National Park, Mae Wong National Park, Khlong Lan National Park, Khaosanamprieng Wildlife Sanctuary, and Phra Ruang Hot Springs. Most elderly tourists’ travel purpose was for leisure in groups. They arranged and organized the trips by themselves and travelled with their family members or relatives. The highest average was the elderly satisfaction on tourist attractions, particularly the cultural and historical sites: Phra Ruang Hot Spring and Nakhon Chum local market. They were also satisfied with the tourism routes.
Article Details
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความเพื่อการศึกษา แต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มาให้ครบถ้วนสมบูรณ์
References
กรวรรณ สังขกร และคณะ. (2555). การประเมินศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวแบบ Slow Tourismในภาคเหนือตอนบนที่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุ. สถาบันวิจัยสังคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2554). ยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2555 – 2559. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
กลุ่มสถิติประชากร. (2560). รายงานการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2560. สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
เกศรา สุกเพชร และวารัชต์ มัธยมบุรุษ. (2554). การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม สำหรับนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุ กรณีศึกษา พื้นที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะและชุมชนรอบจังหวัดลำปาง. มหาวิทยาลัยพะเยา.
จักรกฤษณ์ แสนพรหม. (2556). ความจำเป็นในการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุและผู้สูงอายุในพื้นที่ กรณีศึกษา สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม. [โครงงานปริญญาวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์].มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
ดวงดาว โยชิดะ, ชวลีย์ ณ ถลาง, สิทธินันทน์ พรหมสุวรรณ และสหนนท์ ตั้งเบญจสิริกุล. (2561). ความคาดหวังและความพึงพอใจในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยธนบุรี, 12(ฉบับพิเศษ), 127-137.
นิศา ชัชกุล. (2557). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (พิมพ์ครั้งที่ 6). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2559). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2558. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน).
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2549). ธุรกิจนําเที่ยว. เพรส แอนด์ ดีไซน์.
พงศ์เสวก เอนกจำนงค์พร. (2559). รูปแบบพฤติกรรมการท่องเที่ยวของประชากรรุ่นเบบี้บูมในกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์] มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
รชพร จันทร์สว่าง. (2546). การจัดการการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สิน พันธ์พินิจ. (2547). เทคนิคการวิจัยทางสังคมศาสตร์. วิทยพัฒน์.
สุวัฒน์ จุธาภรณ์ และ จริญญา เจริญสุกใส. (2544). แนวคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว. มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช.
อุทัย สุดสุข และคณะ. (2552). รายงานการวิจัยโครงการศึกษาสถานการณ์ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันความต้องการและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.