การพัฒนาคู่มือและนวัตกรรมภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน ด้านอุตสาหกรรมบริการสาขาการบริการการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียน สำหรับนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทอง
DOI:
https://doi.org/10.14456/rcmrj.2020.193207คำสำคัญ:
คู่มือและนวัตกรรมภาษาอังกฤษ, เตรียมความพร้อมในการทำงาน, อุตสาหกรรมบริการ, การบริการการท่องเที่ยว, ประชาคมอาเซียน, วิทยาลัยการอาชีพจอมทองบทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่อง การพัฒนาคู่มือและนวัตกรรมภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานด้านอุตสาหกรรมบริการสาขาการบริการการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียนสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทองเป็นงานวิจัยโดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพคู่มือและนวัตกรรมภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานด้านอุตสาหกรรมบริการสาขาการบริการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียนสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทอง 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการฟังพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทองก่อนและหลังการเรียนด้วยนวัตกรรมภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานด้านอุตสาหกรรมบริการสาขาการบริการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียน ประชากรคือ นักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทอง ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 2 จำนวน 29 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถาม 2) บทเรียนที่ใช้ QR code และ แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติดังนี้คือ สถิติที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม ค่าเฉลี่ย และ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1) บทเรียนที่ใช้ QR code เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานด้านอุตสาหกรรมบริการสาขาการบริการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียนสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทอง มีประสิทธิภาพเท่ากับ 76.03/75.75 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 75/75 2) การเปรียบเทียบความสามารถในการฟังพูดภาษาอังกฤษก่อนและหลังเรียนด้วยนวัตกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานด้านอุตสาหกรรมบริการสาขาการบริการท่องเที่ยวในประชาคมอาเซียนสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพจอมทองพบว่า มีความก้าวหน้าในความสามารถในการฟังพูดภาษาอังกฤษสูงขึ้น 11.90
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ. (2556). โอกาสทางการตลาดท่องเที่ยวไทยบนความท้าทายกับการก้าวสู่ AEC. TAT Tourism Journal, 10(2), 30-39.
กฤษมันต์ วัฒนาณรงค์. (2542). เทคโนโลยีเทคนิคศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
คุณธัม วศินเกษม. (2553). QR Code. วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, 5(5), 86-87.
ธัชมาศ พิภักดิ์. (2555). การจัดกิจกรรมตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารเพื่อส่งเสริมความสามารถในการฟังและการพูดของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). บัณฑิตมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์. บุรีรัมย์.
มนต์ชัย เทียนทอง. (2547). M-Learning:แนวทางใหม่ ของ E-Learning (M-Learning : A Newparadigm of e-learning). วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, 1(1), 3-11.
มาลัย จีรวัฒนเกษตร์ ทวีสุข. (2554). การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน. เอกสารประกอบการสอน สาขาสาขาวิชาการบริหารอาชีวศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. ราชบัณฑิตยสถาน.
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (2557). รหัสคิวอาร์. สืบค้นจาก https://th.wikipedia.org/wiki
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2557). หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556. กรุงเทพมหานคร.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2559). ระเบียบ สอศ.ว่าด้วยการบริหารอาชีวศึกษาจังหวัดและอาชีวศึกษาภาค พ.ศ. 2559. กรุงเทพมหานคร.
อรนุช พันโทและ อัยรดา พรเจริญ. (2551). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ของการสอนแบบในชั้นเรียนกับการสอนโดยใช้สื่อการสอนผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ กรณีศึกษา รายวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 1.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.
อัจฉรา เชยเชิงวิทย์และคณะ. (2553). การพัฒนาสื่อการสอนบนเว็บเรื่องการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย คอมพิวเตอร์. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.
Littlewood, W.(1982). Communicative Language Teaching : An Introduction. Cambridge: Cambridge University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “Community and Social Development Journal” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Community and Social Development Journal มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และเพื่อให้เผยแพร่บทความได้อย่างเหมาะสมผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เขียนยังคงถือครองลิขสิทธิ์บทความที่ตีพิมพ์ภายใต้ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (CC BY) ซึ่งอนุญาตให้เผยแพร่บทความซ้ำในแหล่งอื่นได้ โดยอ้างอิงต้องอ้งอิงบทความในวารสาร ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตผลิตซ้ำเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากแหล่งอื่น
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ



