แรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานสายงานสนับสนุนของกรมทางหลวง
คำสำคัญ:
แรงจูงใจ, ประสิทธิผล, ผู้ปฏิบัติงาน, สายงานสนับสนุนบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานสายงานสนับสนุนของกรมทางหลวง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยใช้แบบสอบถาม ที่ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ ข้อมูลประชากรศาสตร์ ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน และประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน ประชากรที่ศึกษา คือ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ของกรมทางหลวง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 280 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ(Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Correlation) ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า 1) แรงจูงใจที่มีต่อประสิทธิผลของผู้ปฏิบัติงานสายงานสนับสนุนของกรมทางหลวง พบว่า โดยรวม แรงจูงใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01 2) ปัจจัยแรงจูงใจที่มีต่อประสิทธิผลของผู้ปฏิบัติงานสายงานสนับสนุนของกรมทางหลวง ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงบวกและอยู่ในระดับสูง เท่ากับ .658 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
References
รุ่งทิวา อินต๊ะใจ, (2553) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงาน บริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด [มหาชน] สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2562จากhttp://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/240051
ปฐมวงค์ สีหาเสนา. (2557). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลตำบลค่ายเนินวง ตำบลบางกระจะ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี. งานนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. วิทยาลัยการบริหารัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา
เถลิงศักดิ์ อินทรสร.(2555).แรงจูงใจกับการปฏิบัติงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา,มหาวิทยาลัยศิลปากร
อาทิตยา เหลืองมั่นคง.(2559).แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานกรณีศึกษาบริษัทในเครือสมาร์ทแลนด์
แอสเสท กรุ๊ป.ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการองค์การคณะศิลปศาสตร์,
มหาวิทยาลัยเกริก
Herzberg, Frederick; Mausner, Bernard; Snyderman, Barbara B. (1959). The Motivation to Work (2nd ed.). New York: John Wiley. ISBN 0471373893.
