การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน
คำสำคัญ:
การจัดการความรู้, มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ, มหาวิทยาลัยเอกชนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการดำเนินงานการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยทางด้านองค์ประกอบที่มีผลต่อการดำเนิน การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน และเพื่อศึกษาวิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางด้านองค์ประกอบเกี่ยวกับการจัดการความรู้ที่ผลต่อการดำเนินการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน การวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาโดย ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ บุคลากรใน หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ตั้งแต่ระดับแผนกขึ้นไป จากการสุ่มตัวอย่างประชากรคือ ผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จำนวน 300 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือใน การเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน สถิติทดสอบสมมติฐานคือ t-test, F-test , Spearman’s rho test และ Multiple Regression Analysis
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 31-40 ปี ระดับ การศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่าระยะเวลาการทำงานน้อยกว่า 5 ปี ตำแหน่งงานเจ้าหน้าที่ และไม่ได้เป็นคณะกรรมการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย ภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก และผลการดำเนินการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย ภาพรวมมีผลการดำเนินการอยู่ในระดับมาก มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชนมีผลการดำเนินการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย และมีปัจจัยทางด้านองค์ประกอบที่มีผลต่อการดำเนินการจัดการความรู้ใน ภาพรวมแตกต่างกัน ส่วนบุคลากรมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐที่มีอายุแตกต่างกัน มีผลการดำเนินการจัดการ ความรู้ของมหาวิทยาลัยในภาพรวมแตกต่างกัน แต่มหาวิทยาลัยเอกชนไม่แตกต่างกัน และบุคลากรมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีตำแหน่งงานแตกต่างกัน มีผลการดำเนินการจัดการ ความรู้ของมหาวิทยาลัยในภาพรวม ไม่แตกต่างกัน และปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการความรู้ ประกอบด้วย ด้านผู้นำองค์การ ด้านการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและชุมชน ด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ในการจัดการความรู้ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ด้านบุคลากรที่ใช้ความรู้ ด้านความรู้ ทักษะในการใช้เทคโนโลยี ด้านวัฒนธรรมองค์กร และด้านโครงสร้างองค์กร มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินการจัดการความรู้ภาพรวมแตกต่างกัน และปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการความรู้ มี 4 ปัจจัย คือ ด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Beta = 0.219) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงสร้างพื้นฐาน (Beta = 0.184) ด้านผู้นำองค์การ (Beta = 0.176) และด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจและกลยุทธ์ในการจัดการความรู้ (Beta = 0.149) ส่งผลต่อผลการดำเนินการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยในภาพรวม นอกจากนั้นพบว่าไม่แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
References
จำเริญ จิตหลัง. (2549). ปัจจัยการจัดการความรู้กับองค์การแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา. (วารสารศึกษาศาสตร์). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี.
จิรประภา อัครบวร. (2549). สร้างคนสร้างผลงาน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เต๋า.
จิรศักดิ์ ศิริรัตนพล. (2550) รูปแบบการจัดการความรู้ด้านการสอนของคณาจารย์ ในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน : มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล.
ธิดา จุลินทร. (2549) กระบวนการและปัจจัยความสำเร็จของการจัดการความรู้ในองค์กร: ศึกษากรณีศูนย์สุขภาพจิต (ภาคนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ปัทมาวรรณ สิงห์ศรี. (2550). การศึกษาระบบการจัดการความรู้ในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยพายัพ. (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ภราดร จินดาวงศ์. (2548). การจัดการความรู้ = KM Knowledge management the experience. ปทุมธานี: ซีดับบลิวซี พริ้นติ้ง.
วรภัทร์ ภู่เจริญ. (2548). องค์กรแห่งการเรียนรู้ และการบริหารความรู้ (Learning Organization & Knowledge Management). กรุงเทพฯ: อริยชน.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545. กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.
Bertels, T. (2002). KM Forum Archives—The Early Days: What is Knowledge Management. Retrieved May 3, 2015, from: http://www.KM-Forum.org.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารสุทธิปริทัศน์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสุทธิปริทัศน์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสุทธิปริทัศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารสุทธิปริทัศน์ก่อนเท่านั้น