ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
-
บทความที่ส่งมาเพื่อขอรับการตีพิมพ์เป็นบทความใหม่ และไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
-
ผู้เขียนได้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการทำวิจัย ไม่ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ และไม่บิดเบือนข้อมูล
-
เนื้อหาของบทความ ทั้งข้อความ รูปภาพ และตาราง หากเป็นผลงานของผู้อื่น ผู้เขียนได้มีการอ้างอิงและการจัดทำรายการอ้างอิงท้ายบทความแล้ว กรณีที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
-
บทความมีองค์ประกอบและเนื้อหาสมบูรณ์ ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีการจัดรูปแบบบทความตามรูปแบบ (Template) ตามที่วารสารกำหนด และมีการอ้างอิงแบบ APA 7 (American Psychology Association)
-
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารบริหารธุรกิจ บริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ ราชมงคลล้านนา ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
-
ผู้วิจัยทราบค่าธรรมเนียมการส่งบทความเพื่อพิจารณาตีพิมพ์วารสารในอัตราละ 2,500 บาท
คำแนะนำในการเตรียมบทความ
เพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ ราชมงคลล้านนา
วารสารบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ ราชมงคลล้านนาเป็นเอกสารวิชาการ ออกปีละ 2 ฉบับ (ฉบับที่1 ประจำเดือนมกราคม ถึง มิถุนายน และฉบับที่ 2 ประจำเดือนกรกฎาคม ถึง ธันวาคม) รับพิจารณาบทความครอบคลุมสาขาทางมนุษยศาตร์ โดยบทความแต่ละเรื่องจะรับการประเมินคุณภาพทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่านต่อฉบับ และบทความที่ส่งมาเพื่อรับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในฉบับนี้จักต้องไม่อยู่ ระหว่างการพิจารณาจากที่อื่น หรือได้รับการตีพิมพ์ในวารสารอื่นมาก่อนเป็นวารสารเพื่อจัดเก็บรวบรวมและเผยแพร่องค์ความรู้ทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ และองค์ความรู้ด้านธุรกิจ โดยเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการแก่บุคคลทั่วไป และส่งเสริมให้อาจารย์ประจำและผู้ทรงวุฒิในสาขาต่างๆ ได้เสนอผลงานทางวิชาการ : วารสารบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ ราชมงคลล้านนา นี้ อยู่ในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ การบัญชี เศรษฐศาสตร์และการจัดการ /สหวิทยากรด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ขนาดของบทความ
บทความควรมีความยาวระยะระหว่าง 8-15 หน้า (ไม่รวมหน้าปก) พิมพ์หน้าเดียวบนกระดาษ A4 พิมพ์แบบแนวตั้ง (Portrait) ใส่หมายเลขหน้าทุกหน้าที่ด้านขวาของกระดาษ (Page setup) และส่วนระยะขอบ (margins) ดังนี้
ด้านบน (Top) 2.54 ซม.
ด้านล่าง (Bottom) 2.54 ซม.
ด้านซ้าย (Left) 2.54 ซม.
ด้านขวา (Right) 2.54 ซม.
ขอบเย็บกระดาษ (Gutter) 0 ซม.
หัวกระดาษ (Header) 1.25 ซม.
ท้ายกระดาษ (Footer) 1.25 ซม.
รูปแบการพิมพ์บทความ
พิมพ์ด้วยโปรแกรม Microsoft word 2003 ขึ้นไปรูปแบบตัวอักษร (Front) ให้ใช้ตัวอักษรTH SarabunNew หรือ TH SarabunPSK และขนาดอักษร (Size) 16 ระยะห่างระหว่างบรรทัด 1 บรรทัด
ประเภทผลงานวิชาการ
- บทความวิชาการ (Academic article) ประกอบด้วย บทนำ สาระสำคัญที่จะเสนอ สรุปและเอกสารอ้างอิง
- บทความวิจัย (Research article) ประกอบด้วย บทนำ วัตถุประสงค์ของการวิจัย วิธีการดำเนินการวิจัย ผล อภิปรายผล สรุปผลหรือข้อเสนอ แนะ กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) และเอกสารอ้างอิง
- บทความปริทัศน์ (Review article) ประกอบด้วย บทนำ สาระปริทัศน์ในประเด็นต่างๆ อภิปรายผล กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) และเอกสารอ้างอิง
- บทวิจารณ์หนังสือ (Book article) ประกอบด้วย ชื่อหนังสือที่ต้องการนำมาวิจารณ์ ชื่อผู้เขียนและสังกัด ชื่อผู้แต่งหนังสือ รายละเอียดการตีพิมพ์ของหนังสือ ภาพหน้าปกหนังสือ รายละเอียดการวิจารณ์หนังสือให้แสดงข้อดีและข้อด้อยของหนังสือและข้อเสนอแนะ ควรมีจำนวนหน้าอยู่ระหว่าง 3-5 หน้า
รายละเอียดของหัวข้อหลักแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
- ส่วนหน้าปก (Title page) ประกอบด้วย
ชื่อเรื่อง (Title)
ไม่ควรใช้ชื่อเรื่องที่ยาวเกินไป ควรมีความกระชับ ชัดเจน และครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ
ผู้เขียน (Author)
ระบุชื่อ และนามสกุลของผู้เขียนทุกคน โดยไม่ต้องใส่ตำแหน่งหน้าชื่อ
ที่อยู่ (Address)
ให้ระบุสังกัดและสถานที่ติดต่อโดยละเอียด เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300 เป็นต้น และอีเมล
(เฉพาะผู้ติดต่อหลัก)
*ส่วนของหน้าปกต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- ส่วนของเนื้อหา (Content) ประกอบไปด้วย
บทคัดย่อ (Abstract)
บทคัดย่อต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษและเขียนให้อยู่คนละหน้า และให้ใส่ชื่อเรื่องไว้บนบทคัดย่อ ขนาดตัวอักษร 18 นิ้ว ตัวหนา โดยบทคัดย่อควรระบุจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์โดยย่อของงานวิจัย ขอบเขตของงานวิจัยและผลวิจัยหลัก และมีจำนวนคำระหว่าง 300-350 คำ และต้องมีคำสำคัญจำนวน 3-5 คำ ที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องที่ทำการศึกษาด้วย
บทนำ (Introduction)
กล่าวถึงที่มาของงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เขียนเพื่อนำเสนอประเด็นปัญหาการวิจัยและการตีกรอบปัญหาการวิจัยให้ชัดเจน ประกอบด้วยความเป็นมาของปัญหาการวิจัยและความสำคัญ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย (Objectives)
ควรกำหนดวัตถุประสงค์ให้มีความเป็นไปได้ และสามารถปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ยังควรมีความชัดเจน เพื่อเข้าถึงความหมายได้ตรงกัน
การทบทวนวรรณกรรม
ทฤษฎี แนวคิดและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในงานวิจัยเพื่อนำไปสู่สมมติฐานในการวิจัย
วิธีการดำเนินการวิจัย (Materials and methods)
เขียนบรรยายถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิจัย วิธีการทดลอง วิธีการสุ่ม เป็นต้น และควรเขียนบรรยายให้สามารถทำการทดลองได้
ผล (Result)
เขียนบรรยายผลการวิจัยให้ละเอียด และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการศึกษา หากมีภาพ แผนภูมิ หรือตารางที่เกี่ยวข้องให้ใส่ลงในส่วนของผลด้วย
อภิปรายผล (Discussion)
กล่าวเน้นถึงการค้นพบที่สำคัญของงานวิจัยและอาจเชื่อมโยงผลเพื่อ เปรียบเทียบกับงานวิจัยที่เคยมีค้นคว้าไว้ก่อน
กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี)(Auknowledgement)
ให้กล่าวถึงแหล่งเงินทุนที่ได้รับในการทำวิจัยเท่านั้น (หาก ไม่มีไม่ต้องใส่หัวข้อนี้ในบทความ)
เอกสารอ้างอิง (References)
ข้อกำหนอการเขียนเอกสารอ้างอิง มีดังนี้
- การอ้างอิงใช้รูปแบบการอ้างอิง APA
- แต่ละบทความไม่ควรมีอายุเกิน 10 ปี(แต่หากเป็นบทความที่เกี่ยวข้อกับทฤษฎีซึ่งมีอายุมากกว่า 10 ปี อนุโลมให้นำมาใช้อ้างอิงได้)
การส่งบทความต้นฉบับ 2 ช่องทาง โดย
กำหนดส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาลงตีพิมพ์ Microsoft word 1ชุดตามช่องทางดังนี้
1. เว็บไซต์ : https://www.tci-thaijo.org/index.php/balajhss
ช่องทางการติดต่อสอบถาม
วารสารบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ราชมงคลล้านนา : นายณัฐพงศ์ นิลคำ โทรศัพท์/โทรสาร : 053-921 444 ต่อ 2849
อีเมล : balajournal@rmutl.ac.th
เว็บไซต์ : https://www.tci-thaijo.org/index.php/balajhss
ข้าพเจ้า และผู้เขียนร่วม (ถ้ามี) ขอรับรองว่าบทความนี้ เป็นผลงานที่ยังไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน และไม่นำไปตีพิมพ์ ในวารสารอื่นซ้ำ เป็นผลงานของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วมตามชื่อที่ระบุไว้ในบทความตามจริง และยอมรับเงื่อนไขของกองบรรณาธิการวารสารบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ ราชมงคลล้านนา ทุกประการ กรณีเกิดการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง ภาพ หรือข้อคิดเห็น ที่ปรากฏอยู่ในบทความ ให้เป็นความรับผิดชอบของข้าพเจ้าและผู้เขียนร่วมแต่เพียงฝ่ายเดียว