การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง (ครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน) เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยในจังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
รูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง, ครอบครัว, เด็กปฐมวัย, มหาสารคาม , มหาสารคามบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการมีส่วนร่วมของครอบครัวสถานศึกษาและชุมชนในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในจังหวัดมหาสารคาม 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง (ครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน) ในการรส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในจังหวัดมหาสารคาม 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง (ครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน) เพื่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มเป้าหมาย คือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เข้าร่วมโดยสมัครใจ อำเภอละ 1 แห่ง จาก 13 อำเภอของจังหวัดมหาสารคาม เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบสำรวจข้อมูลสภาพพื้นฐานทั่วไปของชุมชน แบบสำรวจสภาพปัญหาการส่งพัฒนาการของเด็กปฐมวัยในชุมชนจังหวัดมหาสารคาม แบบประเมินการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย และแบบสัมภาษณ์การมีส่วนร่วมของสถานศึกษา ครอบครัว และชุมชนในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย และแบบสำรวจการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย การวิจัยนี้ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า 1) การมีส่วนร่วมของครอบครัว สถานศึกษา และชุมชนส่วนใหญ่เป็นไปในรูปแบบที่สถานศึกษาเป็นผู้ประสาน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในกิจกรรมที่สถานศึกษากำหนด เช่น การประชุม การร่วมงานวันสำคัญ ส่วนการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นการจัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การจัดกีฬาชุมชน การจัดงานวันสำคัญต่าง ๆ หรือการบริจาคเงินและสิ่งของให้กับสถานศึกษา มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นการริเริ่มจากชุมชนหรือกลุ่มผู้ปกครองโดยตรง 2) รูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง (ครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน) เพื่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในจังหวัดมหาสารคาม เป็นสาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย 2 ลักษณะ คือ ส่วนสาระที่เป็นกระบวนการมีส่วนร่วม และส่วนที่เป็นเนื้อหาสาระ โดยกระบวนการการสร้างรูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นการประสานและสร้างความสัมพันธ์กับพื้นที่ ขั้นการปฏิบัติการ เน้นการประชุมเชิงปฏิบัติการทั้งในส่วนของผู้ปกครอง ตัวแทนองค์กรในชุมชนและครูในสถานศึกษาเพื่อร่วมกันส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ขั้นติดตามประเมินผล และขั้นสรุปผลการดำเนินงาน และ 3) ผลการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมแบบสามเส้าเร้าพลัง พบว่า ทั้ง 3 ภาคส่วน มีการประสานความร่วมมือโดยร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ และร่วมประเมินผล ลักษณะการร่วมมือ คือ มีการสื่อสารสร้างความเข้าใจ ร่วมสร้างสรรค์ การระดมทรัพยากร การเป็นอาสาสมัคร และการร่วมคิดร่วมตัดสินใจ ส่งผลให้เกิดความร่วมมือในการจัดจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อม การจัดการเรียนรู้และการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญา ส่งผลให้เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญาดีขึ้น
Downloads
References
กองส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2560). คู่มือแนวทางการจัดทำหลักสูตรพัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
ยูนิเซฟประเทศไทย. (2564). การพัฒนาเด็กปฐมวัย. https://www.unicef.org/thailand/th/ภารกิจของยูนิเซฟ/การพัฒนาเด็กปฐมวัย
สถาบันเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข. (2563). โครงการพัฒนาเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น 4 ภาคหลักสูตรนักถักทอชุมชน เพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน และครอบครัว. https://www.scbfoundation.com/project
สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล. (2562). แผนยุทธศาสตร์สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ปี 2562-2665. สถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล.
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. (2563). ปัญหาพัฒนาการเด็กไทย กับแนวทางการพัฒนาที่สอดรับกับทักษะเด็กในศตวรรษที่ 21. https://www.hsri.o.th/media/news/detail/12472
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). รายงานผลการติดตามการดำเนินงาน ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2561. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2566). รายงานผลการติดตามการดำเนินงาน ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดมหาสารคาม. (2564). การศึกษาข้อมูลพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยในจังหวัดมหาสารคาม. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดมหาสารคาม.
สุวิมล หงส์วิไล. (2559). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสระบัว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
Berger, E. H. (2003). Parents as Partners in Education: Families and Schools Working Together (6th ed.). Prentice Hall.
Eden, C. A., Chisom, O. N., & Adeniyi, I. S. (2024). Parent and Community Involvement in Education: Strengthening Partnerships for Social Improvement. International Journal of Applied Research in Social Sciences, 6(3), 372–382. https://doi.org/10.51594/ijarss.v6i3.894
Epstein, J. L., Sanders, M. G., Simon, B. S., Salinas, K. C., Jansorn, N. R., & VanVoorhis, F. L. (2002). School, Family, and Community Partnerships: Your Handbook for Action (2nd edition). Corwin.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 รุ่งลาวัลย์ ละอำคา, อรนุช วงศ์วัฒนาเสถียร, พีระพร รัตนาเกียรติ์, กฤษกนก ดวงชาทม, วรรณษา โสภานะ, พวงเพชร วงค์ทิพย์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.