The Cultural Identity Of Tapon Community, Khlung District, Chanthaburi Province : Management Of Sustainable Tourism Model

Main Article Content

Napasorn Sroksri

Abstract

     จุดมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อวิเคราะห์อัตลักษณ์ และประเมินคุณค่าความสำคัญของมรดกวัฒนธรรม นำมากำหนดข้อเสนอแนวทางและแผนการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของชุมชนตะปอน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ให้เกิดความยั่งยืน ด้วยวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม การเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมกับชุมชน และการศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง


     ผลการวิจัย พบว่า ชุมชนตะปอน เป็นแหล่งรวมมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ เช่น อุโบสถหลังเก่า วัดตะปอนน้อย วัดตะปอนใหญ่ ที่กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ลักษณะทางกายภาพที่ทรงคุณค่า มีศักยภาพในการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมในขณะที่ประเพณีการแห่ผ้าพระบาท และการเล่นพื้นบ้าน “การชักเย่อเกวียนพระบาท” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าและความสำคัญ เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของชุมชนที่เกิดจากความเชื่อและความศรัทธา มีการปฏิบัติสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง เป็นกิจกรรมทางสังคมที่ส่งเสริมให้เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชน เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและสังคมโดยรอบชุมชนตะปอน นอกจากนี้ ยังได้รับความสนใจจากบุคคลนอกชุมชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่รับรู้ข้อมูลจากคำบอกเล่าถึงตำนาน หรือเรื่องเล่า  ในด้านความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรม ผลจากการวิจัยได้นำมากำหนดรูปแบบและแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยใช้แนวคิดการบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนตะปอนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ในการบริหารจัดการแผนงานและชุดโครงการที่มีความหลากหลาย และปฏิบัติได้จริง ซึ่งจะส่งผลให้การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของชุมชนตะปอนเกิดความยั่งยืน

Article Details

How to Cite
Sroksri, N. (2020). The Cultural Identity Of Tapon Community, Khlung District, Chanthaburi Province : Management Of Sustainable Tourism Model. Phuket Rajabhat University Academic Journal, 15(2), 197–213. retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pkrujo/article/view/242203
Section
Research article

References

กรมการศาสนา. (2529). ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.

กรมศิลปากร. (2555). รายงานการอนุรักษ์วัดตะปอนใหญ่. จันทบุรี: สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี.
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.(2556).เข้าถึงได้จาก http://culture.go.th/study.php?&YY=2548&MM=5&DD=16

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2559). เข้าถึงได้จาก http://ich.culture.go.th

กระทรวงวัฒนธรรม. (2550). แผนแม่บทวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550-2559. กรุงเทพฯ : สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม.

คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (2542). วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดจันทบุรี. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

ชัชชัย โกมารทัต, ฟอง เกิดแก้ว และประพัฒน์ ลักษณพิสุทธิ์. (2527). กีฬาพื้นเมืองไทย: ศึกษาและวิเคราะห์คุณค่าทางด้านพลศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธนิก เลิศชาญฤทธิ์. (2554). การจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.

ปรียนันท์ สิทธิจินดาร์. (2551). การพัฒนาศักยภาพการท่องเทียวเชิงเกษตร-วัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนตําบลตะปอน อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี. จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

พวงแก้ว พรพิพัฒน์. (2553). เศรษฐกิจสร้างสรรค์: พลังขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจไทย. วารสารเศรษฐกิจและสังคม, 47(4), 6.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2544). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน.

วิทยาลัยนาฏศิลป์จันทบุรี. (2550). เพลงพื้นบ้าน การแสดงและการละเล่นพื้นบ้านจังหวัดจันทบุรี. จันทบุรี.

ศิลปวัฒนธรรม. (2557). สืบสานประเพณีท้องถิ่น ชักเย่อเกวียนพระบาท. เดลินิวส์, 27 เมษายน 2557. เข้าถึงได้ จาก https://www.dailynews.co.th/article/233064

ศุภวัฒน์ หิรัญธนวิวัฒน์. (2555). การศึกษาประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม วัดพุทธศาสนา พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา ถึง สมัยรัชกาลที่ 5 กรุงรัตนโกสินทร์. วารสารวิชาการสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 61, 198.

สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2549 ก). คู่มือประเมินมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ: สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.

สุชาติ เถาทอง. (2544). ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นถิ่นภาคตะวันออก. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.

สุภัทรดิศ ดิศกุล, ม.จ. (2515). ทับหลังแบบถาลาบริวัตรในประเทศไทย. วารสารโบราณคดี, 4(1), หน้า 11-17.

สายัณห์ ไพรชาญจิตร์. (2550). การจัดการทรัพยากรทางโบราณคดีในงานพัฒนาชุมชน (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ :โครงการหนังสือโบราณคดีชุมชน.

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. (2552). มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : กระทรวงวัฒนธรรม.

สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2552). รายงานการศึกษาเบื้องต้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (The Creative Economy).กรุงเทพฯ : บี.ซี. เพรส (บุญชิน).

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี. (2559). ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดจันทบุรี. (เอกสารอัดสำเนา)

สำนักนายกรัฐมนตรี. (2556). ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. 2556. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 130 ตอนพิเศษ 13 ง 29 มกราคม 2556 หน้า 1, เข้าถึงได้จาก http://ratchakitcha.soc.go.th

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ. (2554). เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย. เอกสารประกอบการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรม.

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ และธานินทร์ ผะเอม. (2555). แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1-11สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าถึงได้จาก http://www.nesdb.go.th/portals/0/news/article/plan 1-11.pdf