RELATIONSHIPS BETWEEN GAME PLAYING BEHAVIOR AND SELF-ESTEEM OF LOWER SECONDARY SCHOOL STUDENTS

Authors

  • Supat Chupradit Department of Occupational Therapy, Faculty of Associated Medical Sciences, Chiang Mai University
  • Nongluck Kienngam Chiang Mai University Demonstration School

Keywords:

Game Playing Behavior, Self-Esteem, Lower Secondary School Students

Abstract

The purpose of this research was to study relationships between game playing behavior and self-esteem of lower secondary school students. The sample used in the research is lower secondary school students in Chiang Mai University Demonstration School of 242 students by stratified random sampling. The data were collected by questionnaire. The statistics used in data analysis include frequency, percentage, mean, standard deviation and the Spearman’s Rank Correlation Coefficient. The research found that game playing behavior have a relationships in the negative direction with self-esteem in low level.

References

กรมสุขภาพจิต. (2547). คู่มือการจัดกิจกรรม “ฝึกคิดแก้ปัญหาพัฒนา EQ” (สำหรับศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น). นนทบุรี: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.

กิติกานต์ พินวิวัฒน์. (2547). การศึกษาการให้คุณค่าในตนเองในเด็กตาบอด อ.เมือง จ.เชียงใหม่. (ภาคนิพนธ์วิทยาศาสตรบัณฑิต กิจกรรมบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

กิตติรัตน์ ละม่อมสาย. (2549). ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (ภาคนิพนธ์วิทยาศาสตรบัณฑิต กิจกรรมบำบัดคณะเทคนิคการแพทย์). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ชาญวิทย์ พรนภดล, ศิริสุดา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา, ตวงพร สุรพงษ์พิวัฒนะ, ชดาพิมพ์ ศศลักษณานนท์ และ ปาฏิโมกข์ พรหมช่วย. (2552). การศึกษาหาปัจจัยป้องกันการติดเกมในเด็กและวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.

ชาญวิทย์ พรนภดล, บัณฑิต ศรไพศาล, กุสุมาวดี คำเกลี้ยง และ เสาวนีย์ พัฒนอมร. (2557). การพัฒนาแบบทดสอบการติดเกม. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 59(1), 3-14.

เทียม ศรีคำจักร์. (2545). คู่มือการพัฒนาโปรแกรมกิจกรรมบำบัดตามแนวแบบจำลองกิจกรรมที่มีจุดมุ่งหมาย. กรุงเทพ: สำนักปลัดทบวงมหาวิทยาลัย.

ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล. (2551). แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การสร้างความเข้มแข็งทางใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

มัทนียา จำปาพันธุ์, คมสันต์ เกียรติรุ่งฤทธิ์ และ อำไพวรรณ จวนสัมฤทธิ์. (2559). ระดับความภาคภูมิใจในตนเองและการติดเกมในผู้ป่วยวัยรุ่นโรคธาลัสซีเมียโรงพยาบาลรามาธิบดี. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 61(4), 281-292.

พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2540). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: สำนักทดสอบทางการศึกษาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.

ศิริไชย หงส์สงวนศรี, โชษิตา ภาวะสุทธิไพสิฐ และ สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์. (2548) พฤติกรรมการเล่นเกมคอมพิวเตอร์และปัญหาพฤติกรรมติดเกมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. นำเสนอในการประชุมวิชาการราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทยประจำปี 2548 กรุงเทพมหานคร 10-12 ตุลาคม 2548.

ศรีเรือน แก้วกังวาน. (2545). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย เล่มที่ 2 วัยรุ่น – วัยสูงอายุ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาลัยธรรมศาสตร์.

สำนักงานสถิติแห่งชาติกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). สรุปผลที่สำคัญ สำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 จาก: http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/themes/files/icthh59.pdf

อุมาพร ตรังคสมบัติ. (2543). EVREST พาลูกค้นหาความนับถือตนเอง. กรุงเทพฯ: ซันต้าการพิมพ์.

อุสา สุทธิสาคร. (2559). จิตวิทยาวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: หจก. สามลดา.

Coopersmith, S. (1967). The Antecedents of self-esteem. San Francisco. C.A.: W.H. Freeman and Commpany.

Healthy Gamer. (2014). Review of Game Addiction Situations 06–2014. Retrieved August 19, 2018, from http://www. healthygamer.net/download/academic.

Maslow, A. H. (1970). Motivation and Personality (Second Edition). New York: Harper & Row.

Downloads

Published

2020-06-15

How to Cite

Chupradit, S., & Kienngam, N. (2020). RELATIONSHIPS BETWEEN GAME PLAYING BEHAVIOR AND SELF-ESTEEM OF LOWER SECONDARY SCHOOL STUDENTS. SUTHIPARITHAT JOURNAL, 32(103), 55–67. retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/243438

Issue

Section

Research Articles