การจัดการอัตรากำลังผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรศาสตร์ในประเทศไทยเพื่อรองรับการพัฒนาวิชาชีพตามแนวนโยบายขององค์การอนามัยโลก
คำสำคัญ:
ทัศนมาตรศาสตร์, การประกอบโรคศิลปะ, อัตรากำลัง, SPECS2030, ระบบสาธารณสุขบทคัดย่อ
การแก้ไขปัญหาสายตาและสุขภาพตาเป็นส่วนหนึ่งของบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขปฐมภูมิที่สำคัญ โดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการให้บริการด้านนี้ ปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยมีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทัศนมาตรศาสตร์จำนวน 725 คน อย่างไรก็ตาม ความต้องการบริการด้านสุขภาพตายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะสังคมผู้สูงอายุ การใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป้าหมายของโครงการ Sustainable Practices in Eye Care Services 2030 (SPECS 2030) ขององค์การอนามัยโลกที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพระบบสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสายตาอย่างทั่วถึง
การศึกษานี้วิเคราะห์อัตรากำลังของผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรศาสตร์ในประเทศไทย โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Analysis) เปรียบเทียบอัตรากำลังของประเทศกับมาตรฐานสากลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สภาทัศนมาตรศาสตร์โลก (WCO) องค์กรสากลเพื่อป้องกันอาการตาบอด (IAPB) และประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมถึงการคาดการณ์อัตราการผลิตบัณฑิตจากสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรทัศนมาตรศาสตร์
ผลการศึกษาพบว่า อัตรากำลังของผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรศาสตร์ในประเทศไทยยังไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งควรมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,400 คน ที่ประชากรสูงสุด 70 ล้านคน อาจส่งผลต่อการเข้าถึงบริการของประชาชนในระยะยาว การพัฒนาอัตรากำลังให้สอดคล้องกับแนวทางสากลจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพตาและสนับสนุนการปฏิรูปสาธารณสุข ข้อเสนอแนะสำคัญจากการวิจัยนี้คือ ควรกำหนดเป้าหมายระดับประเทศเพื่อพัฒนาอัตรากำลังผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรศาสตร์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ WHO และ IAPB รวมถึงการบูรณาการบทบาทของผู้ประกอบโรคศิลปะเข้าสู่ระบบสาธารณสุขภาครัฐให้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและกระจายบริการสุขภาพตาได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงมหาดไทย, กรมการปกครอง. (2560). สถิติประชากรและบ้าน-จำนวนประชากรแยกรายอายุทั่วประเทศ พ.ศ. 2553. https://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statMONTH/statmonth/#/mainpage
กระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการอนุญาตให้บุคคลทำการประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยทัศนมาตรศาสตร์ ครั้งที่ 3-5 ประจำปี พ.ศ. 2566. ผู้แต่ง.
กระทรวงสาธารณสุข, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2566, 20 ตุลาคม). จำนวนผู้ประกอบโรคศิลปะ 30 กันยายน 2566. https://mrd.hss.moph.go.th/mrd1_hss/?p=8537
กฤษดา แสวงดี และวิไลลักษณ์ เรืองรัตนตรัย. (2554). รายงานการสังเคราะห์ผลการศึกษาความต้องการกำลังคนด้านการแพทย์และสาธารณสุขในระยะ 10 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2552-2561). คณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ.
พิสุทธิ์ สมโภชพิสุทธิ์ และเกียรติพร อำไพ. (2563). การควบคุมการประกอบวิชาชีพทัศนมาตร. วารสารรัชต์ภาคย์, 14(34), 203-218. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/RJPJ/article/view/237788
วิวัฒน์ชัย อัตถากร. (2567). จากเศรษฐกิจยุคดิจิทัลสู่สงครามยุคควอนตัม. วารสารการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน, 31(1), 31-60. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/ppmjournal/article/view/264593
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ. (2558, 23 มกราคม). ความท้าทายของแรงงานไทยในยุคดิจิตอล. https://tdri.or.th/2015/01/thailaborinthedigitalage/
สมาคมนักทัศนมาตรศาสตร์ไทย. (2565). รายงานข้อมูลในด้านการประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตร. ผู้แต่ง.
อัศวิน เสนีชัย, กนก พานทอง, และศราวิน เทพสถิตย์ภรณ์. (2564). การศึกษาปัญหาและแนวทางการกำหนดกลยุทธ์ของนักทัศนมาตรของประเทศไทย. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร., 9(5), 1981-1994. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journal-peace/article/view/244010
อัศวิน เสนีชัย. (2563). อนาคตภาพนักทัศนมาตรของประเทศไทยในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2563-2572) [ปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา]. DSpace Repository. https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8869
George, P. P., Yun, O. C. S., Siow, K., Saxena, N., Heng, B. H., Car, J., & Lockwood, C. (2019). Is there scope for expanding the optometrist’s scope of practice in Singapore?–A survey of optometrists, opticians in Singapore. Contact Lens and Anterior Eye, 42(3), 258-264. https://doi.org/10.1016/j.clae.2019.02.008
Health manpower survey. (2021). Department of Health, The Government of Hong Kong Special Administrative Region. https://www.dh.gov.hk/english/statistics/statistics_hms/statistics_hms_find.html#2021
Healthcare workforce statistics. (2022). Ministry of Health Singapore. https://www.healthhub.sg/a-z/health-statistics/health-manpower
Ho, C. (2023, August 21-22). Optometry challenges in Asia [Conference presentation]. Thailand International Optometry Conference 2023 (TIOC 2023).
Myers, K. J. (2014). The optometry surplus-A quantitative determination of excess densities. American Board of Certification in Medical Optometry. https://abcmo.org/growing-optometry-surpluses/
Naidoo, K. S., Govender-Poonsamy, P., Morjaria, P., Block, S., Chan, V. F., Yong, A. C., & Bilotto, L. (2023). Global mapping of optometry workforce. African Vision Eye Health, 82(1), Article a850. https://doi.org/10.4102/aveh.v82i1.850
The College of Optometrists. (2015). Optical workforce survey (OWS 2015). Author.
World Health Organization. (2012). Situation analysis of vision 2020 in the WHO South-East Asia region. WHO-SEARO.
World Health Organization. (2013). Universal eye health: A global action plan 2014-2019. Author.
World Health Organization. (2022). Report of the 2030 targets on effective coverage of eye care. Author.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารสุทธิปริทัศน์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสุทธิปริทัศน์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสุทธิปริทัศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารสุทธิปริทัศน์ก่อนเท่านั้น
